Hybrid Warfare - PDF Flipbook

Hybrid Warfare

200 Views
3 Downloads
PDF 1,884,442 Bytes

Download as PDF

REPORT DMCA


จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

ค�าน�า กองทัพบกได้ก�ำหนดนโยบำยกำรปฏิบัติงำนประจ�ำปีงบประมำณ ๒๕๖๓ ให้เป็น “ปีแห่งกำรพัฒนำควำมรูแ้ ละควำมสำมำรถทำงทหำรของก�ำลังพลกองทัพบก ในทุกระดับ” โดยมีควำมมุ่งหมำยหลักประกำรหนึ่งคือ กำรส่งเสริมให้ก�ำลังพลของ กองทัพบกมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจสถำนกำรณ์ด้ำนควำมมั่นคงในปัจจุบันที่กองทัพบก ก�ำลังเผชิญอยู่และได้น�ำไปพัฒนำขีดควำมสำมำรถของตนเองและหน่วย ให้มี ขีดควำมสำมำรถในกำรรองรับภัยคุกคำมสมัยใหม่ทมี่ คี วำมสลับซับซ้อนและผสมผสำน มำกยิ่งขึ้น เพื่อเป็นกำรขยำยผลกำรด�ำเนินงำนตำมนโยบำยของกองทัพบกดังข้ำงต้น กรมยุทธศึกษำทหำรบก โดยศูนย์พัฒนำหลักนิยมและยุทธศำสตร์ กรมยุทธศึกษำ ทหำรบก จึงได้พจิ ำรณำน�ำสรุปประเด็นส�ำคัญจำกกำรจัดเสวนำทำงวิชำกำร ประจ�ำ ปีงบประมำณ ๒๕๖๓ (ครัง้ ที่ ๑) เรือ่ งกำรพัฒนำกองทัพบกให้พร้อมรองรับ “Hybrid Warfare” มำใช้ก�ำหนดกรอบ ขอบเขตให้สอดคล้องกับนโยบำยกองทัพบก รวมทั้ง ได้รวบรวมข้อมูลทีส่ ำ� คัญทัง้ จำกกำรบรรยำยและงำนวิจยั ของผูท้ รงคุณวุฒมิ ำประกอบ ในประเด็นเกี่ยวกับอำวุธนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี (นชค.) มุ่งเน้นไปที่กำรแพร่ระบำด ของเชื้อ Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) เพื่อให้หน่วยได้ตระหนักถึง ภัยคุกคำมในรูปแบบใหม่ทกี่ องทัพบกเผชิญอยูท่ งั้ ในปัจจุบนั และในอนำคต ซึง่ หน่วย สำมำรถน�ำไปขยำยผลกำรด�ำเนินงำนฝึกให้มีควำมสอดคล้องกับภัยคุกคำมดังกล่ำว ด้วยกำรน�ำแนวคิดกำรฝึกเตรียมก�ำลังตำม FM 7-0 (Train to Win in a Complex World) หรือกำรฝึกเพื่อเอำชนะในโลกที่มีควำมซับซ้อน น�ำมำใช้พัฒนำในงำน กำรฝึกได้อย่ำงสอดคล้องกับสถำนกำรณ์ปจั จุบนั และสอดคล้องกับแนวคิดทำงทหำร ที่ว่ำ “วิธีแก้ปัญหำทำงทหำรที่ดีที่สุดคือกำรฝึก”

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

กรมยุทธศึกษำทหำรบกหวังเป็นอย่ำงยิ่งว่ำ จุลสำรฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ ต่อก�ำลังพลทุกระดับและหน่วยงำนของกองทัพบกน�ำไปปรับประยุกต์ใช้ขยำยผล ที่หน่วยของตนตำมนโยบำยของกองทัพบกต่อไป พลโท (ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม) เจ้ำกรมยุทธศึกษำทหำรบก

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

สารบัญ

หน้ำ

๑. กล่าวน�า



๒. สงครามผสมผสาน (Hybrid Warfare)



๓. สงครามผสมผสาน (Hybrid Warfare) และสงครามแบบเบ็ดเสร็จ (Total Warfare)

๑๓

๔. การน�า นชค. (นิวเคลียร์ ชีวะ และเคมี) มาใช้เป็นอาวุธทางสงคราม

๑๔

๕. การก่อการร้ายทางชีวภาพ (Bioterrorism) หรือการเกิดโรคระบาด

(Pandemic)

๑๖

๖. โรคติดต่ออุบัติใหม่ “Coronavirus Disease Starting in 2019”

(COVID-19)

๑๘

๗. การป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาด “COVID-19” ของรัฐบาลไทย

๒๑

๘. บทบาทกองทัพบกในการสนับสนุนรัฐบาลเพื่อป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาด

“COVID-19”

๒๒

๙. การพัฒนาของกองทัพบกให้พร้อมรับกับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่

(Non-Traditional Threat)

๒๗

๑๐. การพัฒนาของสงครามผสมผสาน (Hybrid Warfare)

๓๐

๑๑. บทสรุป

๓๒

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

ค�ำปฏิญำณตนของทหำรบกไทย ข้าพเจ้า... ข้าพเจ้า ข้าพเจ้า ข้าพเจ้า ข้าพเจ้า ข้าพเจ้า ข้าพเจ้า ข้าพเจ้า ข้าพเจ้า

เป็นทหารแห่งกองทัพบกไทย จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน จะปฏิบัติงานของตนและสนับสนุนผู้อื่นเพื่อประโยชน์ของชาติเป็นส�าคัญ จะมีความทรหดอดทนทั้งร่างกายและจิตใจ จะมุ่งมั่นในการฝึกอย่างไม่ย่อท้อให้มีความเชี่ยวชาญในการรบเพื่อชัยชนะ จะทุ่มเทปฏิบัติภารกิจให้ส�าเร็จ จะต่อสู้เคียงข้างประชาชนเพื่อก�าจัดศัตรูของชาติ จะพิทักษ์รักษาเอกราชและราชบัลลังก์ไว้ด้วยชีวิต จะไม่ทอดทิ้งเพื่อนทหารไม่ว่าจะบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเป็นอันขาด เพรำะข้ำพเจ้ำ คือ .... ทหำรบกไทย

TAKING THE OATH OF ALLEGIANCE I am a soldier of the Royal Thai Army. I will perform my duty for the country, religions, monarchy and people. I will perform my duty, while supporting others, for the benefit of the nation. I will be physically and mentally tough. I will train myself with determination and perseverance to become proficient in combats. I will dedicate myself for the success of my mission. I will fight the enemies of my country to protect my people. I will sacrifice my life to protect my country's sovereignty and the monarchy. I will never leave a fallen comrade, dead or injured. Because I am.... a soldier of the Royal Thai Army

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

1

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ “Hybrid Warfare” โดย ศพย.ยศ.ทบ.

๑. กล่าวน�า ผลจำกกำรปฏิ วั ติ ท ำงด้ ำ นเทคโนโลยี ส ำรสนเทศและกำรสื่ อ สำร (Information and Communication Technology : ICT) ที่มีประสิทธิภำพสูง สำมำรถสื่ อ สำรกั น ได้ อ ย่ ำ งรวดเร็ ว และไร้ ขี ด จ� ำ กั ด ก่ อ ให้ เ กิ ด สถำนกำรณ์ ที่ซับซ้อน คลุมเครือ จึงท�ำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงทำงโครงสร้ำงสังคม ส่งผล ท�ำให้สภำวกำรณ์ของโลกเกิดปรำกฏกำรณ์ใหม่ที่เรียกว่ำ “VUCA World” ซึง่ เป็นสิง่ ทีค่ นยุคนีต้ อ้ งเผชิญ จะมีลกั ษณะพิเศษ ๔ อย่ำงทีม่ ำกระทบพร้อม ๆ กัน คือ ควำมผันผวน (Volatility), ควำมไม่แน่นอน (Uncertainty), ควำมซับซ้อน (Complexity) และควำมคลุมเครือ (Ambiguity) ปรำกฏกำรณ์ “VUCA” คือ ปัจจัยที่มีควำมซับซ้อน ไม่แน่นอน คลุมเครือ และมีกำรเปลี่ยนแปลงผันผวนอยู่ตลอดเวลำ ซึ่งท�ำให้ “VUCA” ได้กลำยมำเป็น “New Normal” ต่ำงจำกรูปแบบเดิมทีเ่ รำคุน้ เคยชิน ในปัจจุบนั เรำอำจจะตกอยูใ่ น “VUCA” เพียงข้อใดข้อหนึ่งและก็ไม่จ�ำเป็นต้องใช้กำรทหำรเท่ำนั้น สถำนกำรณ์ต่ำง ๆ ที่ เกิดขึ้นแล้วเกิดผลกระทบต่อเนื่องกันมำจนแทบจะไม่สำมำรถคำดกำรณ์เหตุกำรณ์ ที่จะเกิดในอนำคตได้ สถำนกำรณ์แบบนี้เป็นปรำกฏกำรณ์ “VUCA” ได้ทั้งนั้น เช่น สถำนกำรณ์ของกำรอุบัติของ “COVID-19” ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

2

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

ภำพที่ ๑ : แผนภำพของ “VUCA” ที่ น� ำ มำใช้ อ ธิ บ ำยถึ ง สถำนกำรณ์ ที่ เ ต็ ม ไปด้ ว ยควำมสั บ สน และกำรเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกในช่วงสิ้นสุดสงครำมเย็น ค�ำนี้ได้ปรำกฏขึ้นครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๙๐ (พ.ศ. ๒๕๓๓) โดย US Army War College ของสหรัฐฯ

ในด้ ำ นกำรสงครำมก็ จ ะเกิ ด กำรปรั บ เปลี่ ย นรู ป แบบ ลั ก ษณะ วิ ธี ก ำร พัฒนำไปตำมกระแสของเทคโนโลยีดังกล่ำว อีกทั้งควำมก้ำวหน้ำของกำรพัฒนำ เทคโนโลยีทำงด้ำนอำวุธนิวเคลียร์ที่มีอ�ำนำจกำรท�ำลำยล้ำงสูง จึงท�ำให้ทุกฝ่ำย หลีกเลี่ยงกำรเกิดสงครำมขนำดใหญ่ จึงท�ำให้รูปแบบของสงครำมแปรเปลี่ยน มำเป็นควำมขัดแย้งเฉพำะพื้นที่ หรือสงครำมจ�ำกัดขอบเขต (Limited War) ที่ มี ค วำมสลั บ ซั บ ซ้ อ นมำกขึ้ น ก่ อ เกิ ด สภำวกำรณ์ ข องกำรท� ำ สงครำมที่ มี ควำมคลุมเครือสูง หลีกเลี่ยงกำรเผชิญหน้ำโดยตรง ไม่ได้มีกำรประกำศสงครำม น�ำมำสู่กำรผสมผสำนวิธีกำรท�ำสงครำมในหลำกหลำยรูปแบบเข้ำไว้ด้วยกันเพื่อ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องกำร ผลจำกกำรเกิดของสภำวกำรณ์ดังกล่ำว จึงมีผลท�ำให้เกิดเป็นภัยคุกคำม รูปแบบใหม่ทกี่ องทัพบกจะต้องเผชิญและจะต้องเตรียมก�ำลังไว้เพือ่ ให้มคี วำมพร้อม เผชิญกับภัยคุกคำมดังกล่ำว การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

3

๒. สงครามผสมผสาน (Hybrid Warfare) กำรกระท� ำ สงครำมในลั ก ษณะผสมผสำนนี้ ไ ด้ ป รำกฏให้ เ ห็ น มำกขึ้ น เป็นสงครำมในท่ำมกลำงกำรพัฒนำของยุคสำรสนเทศ เนือ่ งจำกประเทศมหำอ�ำนำจ มีควำมพยำยำมที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ทำงทหำรโดยไม่ต้องแสดงควำมขัดแย้ง ระหว่ำงรัฐอย่ำงเปิดเผย โดยที่กำรสงครำมในลักษณะผสมผสำนนั้นจะสำมำรถ ใช้วิธีกำรทำงทหำรร่วมกับวิธีกำรทำงพลเรือนได้ตั้งแต่สถำนกำรณ์ควำมขัดแย้ง ยังอยู่ในระดับต�่ำ คู่ขัดแย้งทุกฝ่ำยยังอยู่ในสภำวะปกติ จะเป็นกำรด�ำเนินกำร เพื่อน�ำไปสู่กำรท�ำให้สำมำรถบรรลุวัตถุประสงค์ทำงทหำร กล่ำวคือ “จุดมุ่งหมำย ของกำรสงครำมดังกล่ำว จะเป็นกำรบรรลุผลส�ำเร็จขั้นสุดท้ำยของภำรกิจด้วยกำร ใช้ก�ำลังและควำมรุนแรงบำงระดับ หรือไม่ก็เพื่อก�ำหนดพื้นที่ส�ำหรับกำรปฏิบัติกำร ทำงทหำรขั้นแตกหักบำงประกำร” ๒.๑ แนวควำมคิดภัยคุกคำมแบบผสมผสำน (Hybrid Threat Concept) Special Operations

Conventional Operations

Hybrid Warfare ภำพที่ ๒ : แผนภำพแสดงให้เห็นถึงมุมมองของ LT. Robert G. Walker นำวิกโยธินสหรัฐฯ ซึง่ เป็นคนแรกทีไ่ ด้ ก�ำหนดค�ำว่ำ “Hybrid Warfare” ไว้ในเล่มวิทยำนิพนธ์ระดับปริญญำโท เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๙๘ การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

4

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

๑) ค� ำ ว่ ำ “Hybrid Warfare” ได้ ป รำกฏขึ้ น ครั้ ง แรกในปี ค.ศ. ๑๙๙๘ (พ.ศ. ๒๕๔๑) จำกวิทยำนิพนธ์ของ LT. Robert G. Walker นำวิกโยธิน สหรัฐฯ (USMC) อธิบำยไว้ว่ำ “Hybrid Warfare” คือ กำรผสมผสำนขีดควำม สำมำรถในกำรท�ำสงครำมพิเศษกับสงครำมตำมแบบเข้ำด้วยกัน เกิดเป็นสิ่งที่ อยู่ในที่ว่ำงเล็ก ๆ ระหว่ำงกำรปฏิบัติกำรสงครำมพิเศษ (Special Operations) กับกำรปฏิบัติกำรสงครำมตำมแบบ (Conventional Operations) เป็นสิ่งที่อยู่ ในพื้นที่ส่วนน้อยที่ซ้อนทับกันและต้องกำรควำมอ่อนตัวอย่ำงมำกในกำรเปลีย่ นผ่ำน ระหว่ ำ งสนำมรบของกำรปฏิ บั ติ ก ำรพิ เ ศษกั บ สนำมรบของกำรปฏิ บั ติ ก ำร ตำมแบบ ทั้งในระดับยุทธกำรและระดับยุทธวิธี LT. Robert G. Walker ได้อธิบำยว่ำจุดก�ำเนิดของ “Hybrid Warfare” เริ่มต้นจำกแนวควำมคิดกำรผสมผสำนขีดควำมสำมำรถในกำรท�ำ สงครำมพิเศษกับสงครำมตำมแบบเข้ำด้วยกัน เน้นกำรใช้พลังอ�ำนำจทำงทหำร ทัง้ ในระดับยุทธกำรและยุทธวิธี ในกำรท�ำสงครำม หน่วยทหำรทีเ่ หมำะสมในกำร ท�ำสงครำมแบบ “Hybrid” คือ หน่วยรบพิเศษ ๒) กองทั พ สหรั ฐ ฯ ได้ อ ธิ บ ำยว่ ำ “Hybrid Warfare” เป็นสถำนกำรณ์สงครำมที่หลีกเลี่ยงกำรปฏิบัติกำรโดยตรง (Indirect Warfare) และเป็นภัยคุกคำมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่อยู่ในสภำวะระหว่ำงสงครำมและยำมปกติ หรือที่เรียกกันว่ำ “พื้นที่สีเทำ” (The Grey Zone) ซึ่งเป็นพื้นที่ก�้ำกึ่งเป็นได้ ทั้ง ๒ แบบ ระหว่ำงสงครำมตำมแบบ (Conventional Warfare) ที่เป็นกำรท�ำ สงครำมของก�ำลังทหำรอย่ำงเปิดเผยกับสงครำมไม่ตำมแบบ (Irregular Warfare) ที่เป็นกำรต่อสู้ด้วยมำตรกำรทำงทหำรโดยไม่มีกำรเผชิญหน้ำกันโดยตรง

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

5

ภำพที่ ๓ : แผนภำพแสดงให้ เ ห็ น ถึ ง แนวคิ ด ของกองทั พ สหรั ฐ ฯ ก� ำ หนดว่ ำ “Hybrid Warfare” คือ กำรผสมผสำนของสงครำมตำมแบบกับสงครำมไม่ตำมแบบในพื้นที่สีเทำ (The Grey Zone)

พื้ น ที่ สี เ ทำ (The Grey Zone) จะถู ก ก� ำ หนดด้ ว ยเงื่ อ นไขทำง ด้ำนกำรเมือง, ด้ำนเศรษฐกิจ, ข้อมูลข่ำวสำร และกำรแข่งขันพลังอ�ำนำจ ทำงทหำร โดยสิ่งเหล่ำนี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นมำกในอนำคตมำกกว่ำสงครำม ตำมแบบ ซึ่งเป็นกำรกระท�ำเพื่อสร้ำงควำมตึงเครียดที่ต�่ำกว่ำระดับสงครำม โดย ไม่สร้ำงเหตุผลเพื่อน�ำไปสู่กำรปะทะ แต่จะมีผลท�ำให้ประเทศอื่นมีข้ออ้ำงเพื่อใช้ มำตรกำรทำงทหำรเข้ำมำแทรกแซงอย่ำงเป็นทำงกำร โดยใช้ยุทธวิธีน�ำกองก�ำลัง ทหำรแฝงมำในครำบพลเรือนเพื่อท�ำกำรเคลื่อนไหวผสมผสำนกับกำรปฏิบัติ กลยุทธ์อื่น ๆ ได้แก่ สงครำมเชิงจิตวิทยำและกำรประชำสัมพันธ์ เป็นต้น เพื่อมุ่ง เปลี่ยนจำกเขตที่ไม่มีกำรพิพำทให้กลำยเป็นเขตที่มีกำรพิพำทต่อกัน ๓) กล่ำวโดยสรุป ค�ำว่ำ “Hybrid Warfare” นั้นแม้จะมีนิยำม ทีห่ ลำกหลำยแตกต่ำงกันในรำยละเอียด แต่ยงั คงมีองค์ประกอบโครงสร้ำง ลักษณะ กรอบและขอบเขตคล้ำยกันอยู่ดี และที่ผ่ำนมำยังไม่ปรำกฏว่ำได้มีกำรก�ำหนด นิยำมอย่ำงเป็นทำงกำร การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

6

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

ในส่ ว นของกองทั พ บกนั้ น ได้ มี ก ำรก� ำ หนดมำตรฐำนไว้ ใ ห้ เ ป็ น แนวทำงเดียวกันตำมแนวคิดของกองทัพสหรัฐฯ และค�ำว่ำ “Hybrid Warfare” ที่มีนักวิชำกำรสถำบันกำรศึกษำ สื่อสิ่งพิมพ์ต่ำง ๆ ในประเทศไทยได้น�ำมำแปล แล้วปรำกฏว่ำได้มีค�ำเรียกที่มีควำมหลำกหลำยแตกต่ำงกันไป เช่น สงครำม พันทำง, สงครำมลูกผสม, สงครำมในรูปแบบใหม่, สงครำมไฮบริด เป็นต้น ก็ยัง ไม่ ไ ด้ มี ก ำรก� ำ หนดให้ ใ ช้ ค� ำ ใดอย่ ำ งเป็ น ทำงกำรเช่ น กั น แต่ ส� ำ หรั บ ในส่ ว น กองทั พ บกนั้ น ได้ ก� ำ หนดให้ ห น่ ว ยได้ ใ ช้ เ ป็ น มำตรฐำนเดี ย วกั น ว่ ำ “สงครำม ผสมผสำน” ๒.๒ ขอบเขตของสงครำมผสมผสำน สงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) เป็นสงครำมที่ใช้วิธีกำร ผสมผสำนกันของเครื่องมือทั้งจำกสงครำมตำมแบบและสงครำมไม่ตำมแบบ ที่จะประกอบด้วย ๘ องค์ประกอบหลัก คือ กองก�ำลังทหำรปกติ, ก�ำลังทหำรรบ พิเศษ, กองก�ำลังที่ไม่ใช่ทหำร, กำรสนับสนุนจำกประชำชนในท้องถิ่น, สงครำม ข้อมูลข่ำวสำรและกำรโฆษณำชวนเชื่อ, กำรทูต, กำรโจมตีด้ำนไซเบอร์ และ สงครำมเศรษฐกิจ

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

7

ภำพที่ ๔ : แผนภำพแสดงให้เห็นถึงขอบเขตของสงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) ประกอบด้วย จ�ำนวน ๘ องค์ประกอบหลัก

๑) ก�ำลังทหำรปกติ (Regular Military Forces) เป็นกองก�ำลังของ รัฐบำลที่รักษำเสถียรภำพควำมมั่นคงของประเทศ ๒) ก�ำลังทหำรรบพิเศษ (Special Forces) หน่วยทหำรที่มีภำรกิจ หน้ำที่ในกำรปฏิบัติกำรพิเศษต่ำง ๆ ใช้ต่อต้ำนกำรก่อกำรร้ำยและปฏิบัติกำรรบ ในสงครำมนอกแบบ ๓) กองก�ำลังที่มิใช่ทหำร (Irregular Forces) คือ กลุ่มกองก�ำลัง ที่ไม่ใช่ทหำร เช่น กลุ่มก่อกำรร้ำยกำรก่ออำชญำกรรมมวลชน หรือกลุ่มที่ต่อต้ำน อ�ำนำจรัฐ ๔) กำรสนั บ สนุ น จำกประชำชนในท้ อ งถิ่ น (Support of Local Unrest) หมำยรวมถึงประชำชนทั่วไป ซึ่งกลุ่มคนเหล่ำนี้จ�ำเป็นต้องได้รับกำร สนับสนุน เช่น นักกำรเมืองระดับชำติ นักกำรเมืองท้องถิ่น และผู้น�ำท้องถิ่น เป็นต้น การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

8

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

๕) สงครำมข้อมูลข่ำวสำรและกำรโฆษณำชวนเชื่อ (Information Warfare Propaganda) เป็ น กำรน� ำ เอำควำมคิ ด ผสมผสำนรวมกั น สร้ ำ ง โฆษณำชวนเชื่อ แล้วน�ำแนวควำมคิดของฝ่ำยตนผ่ำนสื่อสังคมออนไลน์ ๖) กำรทูต (Diplomacy) คือ กำรใช้บุคคลระหว่ำงประเทศหรือ องค์กรอิสระอื่น ๆ ในกำรสื่อสำร เจรจำเพื่อยกระดับเหตุกำรณ์และควำมส�ำคัญ ของกลุ่มตัวเองขึ้นมำ ๗) กำรโจมตีด้ำนไซเบอร์ (Cyber Attacks) คือ กำรกระท�ำที่อำศัย ควำมได้เปรียบจำกช่องโหว่ของระบบเพื่อเข้ำควบคุมกำรท�ำงำนของระบบ ท�ำให้ระบบเกิดควำมเสียหำย โจรกรรมสำรสนเทศโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น Virus, Worm, Trojan, Spyware, Backdoor และ Spam เป็นต้น ๘) สงครำมเศรษฐกิจ (Economic Warfare) คือ ควำมพยำยำม ที่จะด�ำเนินกำรคุกคำมทำงด้ำนเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดผลที่ไม่พึงประสงค์ต่อฝ่ำย ตรงข้ำมจนเกิดควำมเสียหำยทำงด้ำนเศรษฐกิจอย่ำงรุนแรง เช่น กำรใช้มำตรกำร คว�่ำบำตรทำงเศรษฐกิจ กำรสร้ำงปัญหำทำงด้ำนกำรอุปโภคบริโภค เป็นต้น ๒.๓ เครื่องมือของสงครำมผสมผสำน สงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) เป็นสงครำมที่มุ่งกระท�ำต่อ จุดอ่อนของประเทศเป้ำหมำยทำงด้ำนพลังอ�ำนำจแห่งชำติ (National Power) ด้ำนควำมมั่นคง หรือปัจจัยสภำพแวดล้อม ในกำรปฏิบัติกำรทั้ง ๖ ด้ำน (PMESII) ประกอบด้วย ทำงด้ำนกำรเมือง (Political), ทำงด้ำนกำรทหำร (Military), ทำงด้ำนเศรษฐกิจ (Economic), ทำงด้ำนสังคม (Social), ทำงด้ำนข่ำวสำร (Information) และทำงด้ำนโครงสร้ำงพืน้ ฐำน (Infrastructure) เพือ่ บรรลุผลลัพธ์ ทีต่ อ้ งกำร (End State) โดยเครือ่ งมือทีใ่ ช้สำ� หรับกำรปฏิบตั กิ ำรสงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) คือ กำรน�ำเครือ่ งมือทีเ่ ป็นพลังอ�ำนำจในด้ำนต่ำง ๆ มำผสมผสำนกัน การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

9

- กำรใช้กำ� ลังทหำร (Military) เช่น สงครำมตำมแบบ (Conventional Warfare) สงครำมนอกแบบ (Unconventional Warfare) เป็นต้น - กำรใช้เครื่องมือทำงด้ำนกำรเมือง (Political) เช่น กำรปลุกระดม, กำรบ่อนท�ำลำย หรือกำรปลูกฝังแนวควำมคิดทำงกำรเมืองที่เป็นภัยคุกคำมต่อ รัฐบำล เป็นต้น - กำรใช้เครื่องมือทำงด้ำนเศรษฐกิจ (Economic) เช่น กำรใช้ มำตรกำรคว�่ำบำตรทำงเศรษฐกิจ กำรสร้ำงปัญหำทำงด้ำนกำรอุปโภคบริโภค เป็นต้น - กำรใช้เครื่องมือทำงด้ำนกำรปฏิบัติกำรของพลเรือน (Civilian) เช่น กำรสร้ำงเงื่อนไขทำงด้ำนเชื้อชำติ ศำสนำ และวัฒนธรรม เป็นต้น - กำรใช้เครื่องมือทำงด้ำนกำรปฏิบัติกำรข่ำวสำร (Information) เช่น สงครำมข้อมูลข่ำวสำร (Information Warfare), กำรสร้ำงข่ำวปลอม (Fake News), กำรโฆษณำชวนเชื่ อ (Propaganda), สงครำมไซเบอร์ (Cyber Warfare), กำรวิเครำะห์ข้อมูลขนำดใหญ่ (Big Data Analytics) เป็นต้น เครื่องมือดังกล่ำวจะถูกออกแบบเป็นชุดโจมตีที่มีควำมประสำน สอดคล้องและเข้ำโจมตีในหลำยระดับ ทั้งระดับยุทธศำสตร์ ยุทธกำร และ ยุทธวิธี ซึ่งจะเป็นกำรโจมตีอย่ำงกว้ำงขวำง โดยที่ทุกเครื่องมือจะมีทั้งกำรปฏิบัติ ตำมแบบและกำรปฏิบัติที่ไม่ตำมแบบตำมจังหวะทำงยุทธกำร โดยที่พลังอ�ำนำจ จำกกำรผสมผสำนเครื่องมือดังกล่ำวนั้นจะมีควำมสอดคล้องต่อเวลำ (Time), พื้นที่ (Space) และวัตถุประสงค์ (Purpose) โดยในกำรปฏิบัติกำรสงครำม แบบผสมผสำน (Hybrid Warfare) มักจะเน้นเลือกไปในพื้นที่เป้ำหมำยที่เป็น จุดอ่อน เพื่อขยำยผลเป็นส�ำคัญ เช่น พื้นที่ในเมืองที่มีปัญหำควำมขัดแย้งภำยใน อยู่แล้ว หรือพื้นที่ซึ่งมีควำมอ่อนไหวทำงด้ำนชำติพันธุ์ ศำสนำ เป็นต้น

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

10

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

๒.๔ สงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) : รัสเซียผนวกไครเมีย ไครเมี ย เป็ น สำธำรณรั ฐ ปกครองตนของประเทศยู เ ครน ตำมกฎหมำย เป็นพื้นที่คำบสมุทรที่อยู่ทำงตอนใต้ของประเทศยูเครน เคยเป็น ส่วนหนึ่งของอดีตสหภำพโซเวียตซึ่งประชำกรส่วนใหญ่มีเชื้อสำยรัสเซียและ พูดภำษำรัสเซีย มี ป ระวั ติ ศ ำสตร์ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งแนบแน่ น กั บ รั ส เซี ย มำยำวนำน นับตั้งแต่อดีต อีกทั้งยังมีพรมแดนที่ใกล้ชิดจนเกือบจะเป็นผืนแผ่นดินเดียวกัน ยิ่งไปกว่ำนั้นประชำกรกว่ำครึ่งในไครเมียก็มีเชื้อสำยรัสเซียซึ่งที่มีควำมผูกพัน และสนับสนุนรัสเซีย โดยรัสเซียได้ใช้โอกำสในช่วงที่ยูเครนเกิดกำรเปลี่ยนแปลง ทำงกำรเมืองเข้ำมำแทรกแซงกิจกำรภำยในและได้เคลื่อนก�ำลังทหำรจ�ำนวนมำก เข้ำมำยังพื้นที่ไครเมีย รัสเซียได้ใช้กองก�ำลังชำวพื้นเมืองแบ่งแยกดินแดนในประเทศยูเครน เป็นเครื่องมือ เพื่อปกปิดวัตถุประสงค์ทำงทหำรที่แท้จริงที่ต้องกำรยึดดินแดน ดังกล่ำวโดยไม่ต้องใช้ก�ำลังทหำรตำมแบบให้มำเผชิญหน้ำกันอย่ำงเปิดเผย โดยเมื่อปี ค.ศ. ๒๐๑๔ (พ.ศ. ๒๕๕๗) รัสเซียได้ใช้ก�ำลังและเครื่องมือที่สื่อมวลชน เรียกว่ำ “กลุ่มชำยชุดเขียวเล็ก” (Little Green Men) ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติกำร พิเศษที่รัสเซียเพิ่งตั้งขึ้น แต่ว่ำไม่ได้แสดงตัว ไม่มีเครื่องหมำยแสดงสัญลักษณ์ ที่ จ ะสำมำรถระบุ ตั ว ตนได้ ชั ด เจนว่ ำ เป็ น ทหำรรั ส เซี ย กำรกระท� ำ ดั ง กล่ ำ ว เพือ่ สร้ำงควำมคลุมเครือเนือ่ งจำกรัสเซียอ้ำงว่ำกลุม่ เหล่ำนีเ้ ป็นเพียงกลุม่ แบ่งแยก ดินแดนในบ้ำนเกิด มีกำรปฏิบัติในลักษณะที่สุภำพ แต่กลุ่มดังกล่ำวก็ได้มีกำร ติดอำวุธและได้ใช้วธิ กี ำรผสมผสำนกับกำรปฏิบตั กิ ำรข่ำวสำร รวมทัง้ ใช้กลุม่ ตัวแทน ที่เป็นชำวรัสเซียที่อำศัยอยู่ในพื้นที่ได้ร่วมกันสร้ำงสถำนกำรณ์ขึ้น จนกระทั่ง ในที่สุดสำมำรถผนวกไครเมียได้โดยไม่ต้องท�ำสงครำมรบกัน

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

11 (Security Pamphlet)

จุลสารด้านความมั่นคง

ภำพที่ ๕ : แผนที่ แ สดงให้ เ ห็ น กรณี ข องรั ส เซี ย ใช้ รู ป แบบของสงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) โจมตียูเครนเพื่อต้องกำรผนวกดินแดนแหลมไครเมีย

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ

"Hybrid Warfare"

12

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

รัสเซียได้ใช้เครื่องมือทุกรูปแบบผสมผสำนกันในกำรท�ำปฏิบัติกำร ดังกล่ำว เช่น กำรปฏิบัติกำรข่ำวสำรโดยใช้สื่อสิ่งพิมพ์ และรำยกำรทำงโทรทัศน์, กำรสร้ำงข่ำวปลอม, กำรให้ทุนแก่องค์กรต่ำง ๆ ในยุโรปเพื่อส่งเสริมทัศนะที่ดีต่อ รัสเซีย, กำรสร้ำงอิทธิพลทำงเศรษฐกิจโดยใช้พลังงำนเป็นเครื่องมือทำงนโยบำย กำรต่ำงประเทศและมำตรกำรลับต่ำง ๆ รวมทั้งกำรใช้อิทธิพลทำงกำรทูตต่ำง ๆ เป็นต้น ซึ่งเป็นกำรด�ำเนินกำรทุกระบบผสมผสำนกัน เพื่อท�ำลำยกำรต่อต้ำน หลีกเลี่ยงกำรใช้อ�ำนำจกำรยิงของกำรท�ำสงครำมดังกล่ำว กรณี นี้ ไ ด้ ถู ก ยกเป็ น ตั ว อย่ ำ งของสงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) เมื่ออธิบำยถึงลักษณะกำรปฏิบัติกำรแบบใหม่ที่รัสเซียใช้ในกำรโจมตี ประเทศยูเครน เป็นกำรท�ำสงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) ในลักษณะ แบบสันติ แต่สำมำรถเข้ำยึดครองพื้นที่ได้เหมือนกับกำรรบที่ใช้ก�ำลังโดยตรง ในแบบยุคดั้งเดิม นั่นคือ กำรชนะสงครำม

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

13

๓. สงครามผสมผสาน (Hybrid Warfare) และสงครามแบบเบ็ดเสร็จ (Total Warfare) จำกที่กล่ำวมำดังข้ำงต้นจะพบว่ำ สงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นใหม่ แต่เป็นรูปแบบของสงครำมที่มีมำนำนแล้ว และ จะมีลักษณะ รูปแบบ กรอบขอบเขตคล้ำยกันกับสงครำมแบบเบ็ดเสร็จ (Total Warfare) ที่เป็นสงครำมแบบดั้งเดิมที่มีกำรผนึกก�ำลังผสมผสำนทรัพยำกร และพลังอ�ำนำจของชำติที่มีอยู่ทั้งมวลเข้ำท�ำกำรสู้รบโดยไม่ค�ำนึงว่ำจะเป็น ก�ำลังทหำรหรือประชำชน โดยควำมมุ่งหมำยของสงครำมแบบดั้งเดิมนั้นจะมี ควำมมุ่งหมำยที่ชัดเจน คือเพื่อที่จะเอำชนะทำงทหำรด้วยกำรใช้ทรัพยำกร ทั้งมวล และมุ่งจะยึดครองดินแดนฝ่ำยตรงข้ำม ส่วนรูปแบบของสงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) นั้นจะเป็นกำร พัฒนำกำรต่อเนื่องของรูปแบบสงครำมเบ็ดเสร็จ (Total Warfare) ที่มีกำร ปฏิบัติกำรทำงทหำรที่มีควำมสลับซับซ้อนมำกกว่ำสงครำมแบบเบ็ดเสร็จ (Total Warfare) แบบดั้งเดิม โดยในส่วนของสงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) ในยุคปัจจุบันนั้นได้มีกำรพัฒนำรูปแบบขึ้นมำด้วยกำรน�ำเทคโนโลยีแบบใหม่ เข้ำมำเพิม่ ขีดควำมสำมำรถของกำรท�ำสงครำมด้วยโดยเฉพำะทำงด้ำนเทคโนโลยี สำรสนเทศและกำรสือ่ สำร (Information and Communication Technology : ICT) โดยหลีกเลี่ยงกำรท�ำสงครำมโดยตรง และจะท�ำกำรโจมตีต่อเป้ำหมำย ทุกอย่ำงที่มีผลต่อควำมมั่นคง รวมถึงประชำชนที่อยู่แนวหลังด้วย นอกจำกนี้ คู่สงครำมหรือคู่ควำมขัดแย้งไม่จ�ำเป็นต้องเป็นรัฐต่อรัฐ แต่จะเป็นรัฐต่อกลุ่มคน ที่ ไ ม่ ใ ช่ รั ฐ ก็ ไ ด้ เพื่ อ ในภำพรวมให้ น� ำ ไปสู ่ ก ำรบรรลุ วั ต ถุ ป ระสงค์ ท ำงทหำร ที่ไม่แสดงควำมขัดแย้งต่อกันให้ปรำกฏอย่ำงชัดเจน

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

14

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

๔. การน�า นชค. (นิวเคลียร์ ชีวะ และเคมี) มาใช้เป็นอาวุธทางสงคราม ๔.๑ องค์ ก ำรสหประชำชำติ (UN) ได้ ก ล่ ำ วถึ ง อำวุ ธ ท� ำ ลำย ล้ำงสูง (Weapons Mass Destruction - WMD) ในปัจจุบันมีอำวุธเพียง ๓ ประเภท คือ อำวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Weapons) อำวุธชีวภำพ (Biological Weapons) และอำวุธเคมี (Chemical Weapon) ซึ่งกำรแพร่ขยำยอำวุธที่มี อำนุภำพท�ำลำยล้ำงสูง เป็นภัยคุกคำมที่เป็นปัญหำส�ำคัญในด้ำนควำมมั่นคงและ ควำมปลอดภัยระหว่ำงชำติในภูมิภำคต่ำง ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ในระดับนำนำชำติ จึงได้มีข้อตกลงหรืออนุสัญญำเกี่ยวกับกำรไม่แพร่ขยำยอำวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Non-Proliferation Treaty : NPT) อนุสัญญำห้ำมอำวุธเคมี (Chemical Weapons Convention : CWC) และอนุสัญญำห้ำมอำวุธชีวภำพ (Biological Weapons Convention : BWC) ๑) อำวุธชีวภำพ (Biological Weapons) เป็นอำวุธที่มีแหล่งก�ำเนิด ทำงชีวภำพที่มีกำรเตรียมไว้ส�ำหรับกำรบ่อนท�ำลำย กำรก่อวินำศกรรม หรือเพื่อ กำรท�ำสงครำมโดยมุ่งกระท�ำต่อสิ่งมีชีวิตทั้งสัตว์และพืช อันจะส่งผลกระทบ กระเทือนต่อควำมมั่นคงของประเทศ อำวุธชนิดนี้ได้มีกำรใช้มำตั้งแต่ยุคดั้งเดิม จนถึงยุคปัจจุบันเนื่องจำกเป็นอำวุธที่ผลิตได้ง่ำย มนุษย์รู้จักผลิตอำวุธชีวภำพ โดยเลียนแบบจำกกำรเกิดโรคระบำด โดยสถำนกำรณ์ในปัจจุบนั นีไ้ ด้เกิดกำรแพร่ ระบำดของเชื้อ Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) ซึ่งก็ยังไม่มีหลักฐำน แน่ชัดว่ำเป็นอำวุธชีวภำพ (Biological Weapons) ที่ฝ่ำยคู่ขัดแย้งกันได้จงใจ น�ำมำลักลอบใช้ปฏิบตั กิ ำรต่อกัน หรือเป็นกำรอุบตั ขิ นึ้ ของโรคระบำด (Pandemic) ๒) อำวุธเคมี (Chemical Weapon) เมื่อสงครำมโลกครั้งที่ ๑ (ปี ค.ศ. ๑๙๑๕) ประเทศเยอรมนีและประเทศฝรั่งเศสที่เป็นคู่สงครำมได้น�ำมำ ใช้ ใ นกำรปฏิ บั ติ ก ำรทำงทหำรโดยตรง แต่ เ มื่ อ เกิ ด สงครำมโลกครั้ ง ที่ ๒ กลั บ ไม่ ป รำกฏว่ ำ มี คู ่ ส งครำมได้ ใ ช้ อ ำวุ ธ เคมี ม ำใช้ ท� ำ สงครำมกั น ในลั ก ษณะ การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

15

เปิดเผยแบบเดิมอีกเพรำะกลัวกำรตอบโต้ จะมีก็แต่ประเทศเยอรมนีที่ใช้ก๊ำซพิษ ไซคลอน บี (Zyklon B) ในกำรฆ่ำล้ำงเผ่ำพันธุ์ (Holocaust) จนมำถึงยุคปัจจุบัน ก็ยังปรำกฏว่ำมีกำรใช้อำวุธเคมีอยู่บ้ำง เช่น กำรใช้อำวุธเคมีโจมตีที่ซีเรีย เป็นต้น ๓) อำวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Weapons) เป็นอำวุธท�ำลำยล้ำงที่มี อำนุภำพสูงที่สุด มีกำรใช้ครั้งแรกและใช้เพียงครั้งเดียวในสมัยสงครำมโลก ครัง้ ที่ ๒ เมือ่ สหรัฐฯ ทิง้ ระเบิดปรมำณูถล่มเมืองฮิโรชิมำ่ และนำงำซำกิของประเทศ ญี่ปุ่นเพื่อบีบบังคับให้ญี่ปุ่นยอมแพ้ และหลังจำกนั้นบรรดำประเทศมหำอ�ำนำจ ก็ได้มีกำรแข่งขันสะสมอำวุธนิวเคลียร์ แต่ก็ยังคงไม่มีใครกล้ำน�ำมำใช้งำนก่อน จนถึงปัจจุบัน เพรำะกลัวจะถูกฝ่ำยตรงข้ำมตอบโต้ ตำมที่เรียกว่ำ ทฤษฎีหรือ หลักนิยมกำรท�ำลำยล้ำงทั้ง ๒ ฝ่ำย (Mutual Assured Destruction : MAD) ๔.๒ อำวุธนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี (นชค.) เป็นอำวุธที่มีขีดควำมสำมำรถ ในกำรท�ำลำยล้ำงสูง ดังนัน้ ประเทศต่ำง ๆ จึงได้ตระหนักถึงควำมร้ำยแรงต่ออำวุธ ดังกล่ำวและได้มกี ำรท�ำข้อตกลง ข้อบังคับ ข้อห้ำมร่วมกันไว้แล้ว แต่ในทำงปฏิบตั ิ กลับพบว่ำแต่ละฝ่ำยยังคงได้มีกำรพัฒนำกันต่อไป ทั้งที่สำมำรถตรวจสอบได้ และไม่ เ ป็ น ที่ เ ปิ ด เผย และยั ง คงปรำกฏว่ ำ ได้ มี ก ำรน� ำ มำใช้ ใ นลั ก ษณะของ กำรก่อกำรร้ำยไม่เปิดเผยแหล่งที่มำ แต่ในกำรน�ำมำใช้ในกำรปฏิบัติกำรทำงทหำร โดยตรงกลับพบว่ำมักจะไม่มีฝ่ำยใดกล้ำใช้อำวุธประเภทท�ำลำยล้ำงสูงกลุ่มนี้ อย่ำงจริงจัง เพรำะนอกจำกจะกลัวกำรตอบโต้คืนแล้ว ปัญหำหลักที่ส�ำคัญก็คือ กำรควบคุมที่ยำกล�ำบำกที่อำจจะเกิดจำกกำรช�ำรุดท�ำให้เกิดกำรรั่วไหล เกิดกำร ระเบิด หรือเกิดเหตุไม่คำดคิดอื่น ๆ จนท�ำให้ฝ่ำยที่เป็นผู้ใช้อำวุธดังกล่ำว กลับกลำยเป็นฝ่ำยที่ได้รับผลกระทบเอง

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

16

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

๕. การก่ อ การร้ า ยทางชี ว ภาพ (Bioterrorism) หรื อ การเกิ ด โรคระบาด (Pandemic) ๕.๑ อำวุ ธ ชี ว ภำพ (Biological Weapons) เป็ น หนึ่ ง ในอำวุ ธ ที่ มี ขีดควำมสำมำรถในกำรท�ำลำยล้ำงสูง (Weapons Mass Destruction : WMD) เนื่องจำกเชื้อจุลชีพเหล่ำนี้จะมีคุณสมบัติที่มีอัตรำกำรระบำดสูง เกิดกำรแพร่ กระจำยได้ อ ย่ ำ งรวดเร็ ว สำมำรถผลิ ต ได้ ง ่ ำ ยและมี ป ริ ม ำณมำก มี ค วำม คงควำมเป็นพิษได้นำน และจัดว่ำเป็นรูปแบบหนึ่งของภัยคุกคำมรูปแบบใหม่ (Non-Traditional Threat) โดยที่ ก ำรก่ อ กำรร้ ำ ยด้ ว ยอำวุ ธ ชี ว ภำพ (Bioterrorism) นั้ น จะเป็ น กำรน� ำ อำวุ ธ ชี ว ภำพดั ง กล่ ำ วมำเตรี ย มไว้ เ พื่ อ ส� ำ หรั บ ท� ำ สงครำมหรื อ กำรก่ อ วิ น ำศกรรมที่ มุ ่ ง กระท� ำ ต่ อ สิ่ ง มี ชี วิ ต ของฝ่ ำ ย ตรงข้ ำ มเพื่ อ หวั ง ผลควำมได้ เ ปรี ย บทำงสถำนกำรณ์ ท� ำ ให้ ฝ ่ ำ ยที่ ถู ก กระท� ำ เกิดกำรตื่นตระหนก หวำดกลัว และมีอัตรำกำรตำยที่สูง ส่งผลให้ก�ำลังของฝ่ำย ตรงข้ำมอ่อนแอลง หมดขีดควำมสำมำรถในกำรต้ำนทำนและยินยอมที่จะปฏิบัติ ตำมวัตถุประสงค์ที่ฝ่ำยกระท�ำต้องกำร ๕.๒ กำรก่อกำรร้ำยด้วยอำวุธชีวภำพ (Bioterrorism) และกำรเกิด โรคระบำด (Pandemic) ตำมธรรมชำตินั้นจะมีควำมแตกต่ำงกัน ถึงแม้จะมีผล ที่ได้รับจำกเชื้อดังกล่ำวจะมีลักษณะอำกำรเป็นแบบเดียวกัน แต่ในขั้นตอน รำยละเอียดนั้นก็จะมีจุดที่แตกต่ำงกันที่พอจะสังเกตได้ โดยจะพิจำรณำได้ตำม วัตถุประสงค์หลักหรือควำมร้ำยแรงของเชื้อจุลชีพที่น�ำมำใช้ กล่ำวคือ ถ้ำเป็น ผลที่เกิดจำกอำวุธชีวภำพ (Biological Weapons) ที่มีผู้จงใจกระท�ำให้เกิด เหตุดังกล่ำวนั้นมักจะเกิดอำกำรขึ้นแบบเร่งด่วนพร้อม ๆ กันเนื่องจำกมีกลุ่มคน ได้รับเชื้อหรือพิษจำกจุลชีพที่เข้มข้นในเวลำใกล้เคียงกัน และกำรระบำดของ โรคนั้นก็จะมีระยะเวลำกำรฟักตัวที่สั้นกว่ำโรคที่เกิดตำมธรรมชำติ เพรำะผู้ป่วย การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

17

จะได้รับเชื้อหรือพิษที่มีควำมเข้มข้นมำกกว่ำปกติ เนื่ อ งจำกผู ้ ที่ ก ระท� ำ กำร ก่อกำรร้ำยดังกล่ำวมักจะหวังผลในระยะเวลำทีร่ วดเร็วเพือ่ จะได้นำ� ไปสูค่ วำมต้องกำร อีกขั้นในกำรได้รับควำมสนใจและใช้ในกำรเรียกร้อง ต่อรอง หรือลดทอนก�ำลัง ฝ่ำยตรงข้ำมให้ออ่ นแอลงอย่ำงรวดเร็วเพือ่ จะได้นำ� ไปสูก่ ำรบรรลุวตั ถุประสงค์หลัก ในขั้นต่อไป

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

18

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

๖. โรคติดต่ออุบตั ใิ หม่ “Coronavirus Disease Starting in 2019” (COVID–19) ๖.๑ องค์ ก ำรอนำมั ย โลก (WHO: World Health Organization) ได้ประกำศเมื่อ ๓๐ ม.ค. ๖๓ ว่ำกำรระบำดของโรคติดเชื้อ Coronavirus (COVID–19) เป็ น โรคติ ด ต่ อ อุ บั ติ ใ หม่ ที่ ป รำกฏและแพร่ ร ะบำดมำ ตั้ ง แต่ ป ลำยปี ๒๕๖๒ เป็ น “ภำวะฉุ ก เฉิ น ระหว่ ำ งประเทศ” และต่ อ มำ ได้ ป ระกำศเป็ น กำรระบำดใหญ่ (Pandemic) ติ ด ต่ อ กั น ไปทั้ ง โลก โดยเชื้ อ ไวรั ส ดั ง กล่ ำ วมำจำกกลุ ่ ม “Corona” ที่ ไ ด้ มี ก ำรค้ น พบมำแล้ ว จ� ำ นวน ๖ สำยพั น ธุ ์ ส่ ว นสำยพั น ธุ ์ ท่ี ก� ำ ลั ง แพร่ ร ะบำดหนั ก ทั่ ว โลกนี้ เป็นสำยพันธุ์ใหม่ (สำยพันธุ์ที่ ๗) ที่ยังไม่เคยปรำกฏมำก่อน ได้ตรวจพบครั้งแรก ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ สำธำรณรัฐประชำชนจีน เมื่อปลำยปี ค.ศ. ๒๐๑๙ (เมื่อ ๓๐ ธันวำคม ๒๕๖๒) และองค์กำรอนำมัยโลก (WHO) ได้ประกำศให้เรียก ว่ำ “Coronavirus Disease Starting in 2019” (COVID-19) เพื่อมิให้เกิด รอยมลทินกับแหล่งทีเ่ กิดกำรระบำดขึน้ ครัง้ แรก ซึง่ ผลจำกกำรวิจยั ยังไม่สำมำรถสรุป ได้ว่ำเชื้อไวรัสดังกล่ำวนั้นมีต้นตอมำจำกที่ใด ถึงแม้จะมีกำรศึกษำรหัสพันธุกรรม และกำรเรียงล�ำดับของรหัสแต่ละตัวซึ่งจะน�ำไปสู่กำรบอกถึงต้นตอของเชื้อไวรัส ดังกล่ำวแล้วก็ตำม

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

19

๖.๒ คณะนักวิจัยได้พบเชื้อไวรัสดังกล่ำวใน “ค้ำงคำว” ประเทศจีน แต่เนื่องจำกกำรแพร่ระบำดครั้งนี้ได้เกิดในช่วงฤดูหนำว ซึ่งเป็นช่วงจ�ำศีลของ ค้ำงคำว ดังนั้น มนุษย์จึงไม่น่ำจะติดเชื้อโดยตรงจำกค้ำงคำว นักวิจัยจึงได้ สันนิษฐำนว่ำอำจจะมีกำรแพร่เชื้อผ่ำนสัตว์ที่เป็นตัวกลำง (Intermediate Host) เช่น “งู” เนื่องจำกค้ำงคำวเป็นอำหำรของงู หรืออีกข้อสันนิษฐำนมีควำมเห็นว่ำ อำจมำจำก “ตัวนิ่ม” หรือ “ตัวลิ่น” ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีตัวอ่อนของปรสิตอำศัยอยู่ ได้ เ ป็ น ตั ว กลำงในกำรแพร่ เ ชื้ อ ดั ง กล่ ำ ว เนื่ อ งจำกตั ว นิ่ ม เป็ น สั ต ว์ เ ลี้ ย งลู ก ด้วยนมชนิดเดียวของโลกทีม่ เี กล็ด ดังนัน้ คนจึงนิยมน�ำมำใช้ทำ� ยำจีนแผนโบรำณ โดยเชื่อกันว่ำเกล็ดของตัวนิ่มมีสรรพคุณช่วยล้ำงพิษ และหลังเกิดกำรแพร่ ระบำดของเชื้อไวรัสสำยพันธุ์ใหม่ได้ไม่นำน ทำงกำรจีนก็สั่งแบนกำรค้ำสัตว์ป่ำ ทุกชนิดทั่วประเทศ

ภำพที่ ๖ : คณะนักวิจัยสันนิษฐำนว่ำ “ค้ำงคำว” “งู” และ “ตัวนิ่ม หรือ ตัวลิ่น” อำจเป็นสัตว์ที่น�ำเชื้อ ไวรัส “COVID-19” มำติดต่อสู่คน การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

20

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

๖.๓ องค์ ก ำรอนำมั ย โลก (WHO) ระบุ ว ่ ำ กำรติ ด เชื้ อ “COVID-19” สังเกตอำกำรเบื้องต้นจำก ๕ อำกำรหลักด้วยกัน คือ มีไข้, เจ็บคอ, ไอแห้ง, น�้ำมูกไหล และหำยใจเหนื่อยหอบเหมือนไข้หวัดธรรมดำ แต่เมื่อภูมิต้ำนทำน ร่ำงกำยเกิดอ่อนแอลงและเชื้อไวรัสสำมำรถเข้ำไปท�ำลำยกำรท�ำงำนของปอด ได้ จะท�ำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจำยลุกลำมอำจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ ลักษณะ อำกำรตำมงำนวิจัยล่ำสุดที่ตีพิมพ์ในวำรสำร (Online) International Forum of Allergy & Rhinology (เมื่อ ๑๒ เมษำยน ๒๕๖๓) รำยงำนเพิ่มเติมว่ำ อำกำรสูญเสียกำรรับรู้กลิ่นและรสเป็นหนึ่งในอำกำรของผู้ป่วยติดเชื้อก่อนจะ มีอำกำรไข้ และกำรรักษำในปัจจุบันยังไม่มีกำรรับรองมำตรฐำน ยำที่น�ำมำใช้ ยังถือว่ำเป็นยำทดลองใช้ทนี่ ำ� มำใช้รกั ษำตำมอำกำรของโรค ดังนัน้ หลำยประเทศ จึงได้เน้นไปทีร่ ะบบกำรป้องกันกำรแพร่เชือ้ COVID-19 ด้วยกำรก�ำหนดมำตรกำร ควบคุมต่ำง ๆ แตกต่ำงกันไปตำมบริบทนั้น ๆ เช่น กำรรักษำระยะห่ำงทำงสังคม (Social Distancing), กำรท�ำงำนจำกที่บ้ำน (Work from Home), มำตรกำร ปิดประเทศหรือปิดเมือง (Lock Down) และกำรจัดพื้นที่ควบคุมโรค (State/ Local Quarantine) เป็นต้น

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

21

๗. การป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาด “COVID-19” ของรัฐบาลไทย ๗.๑ โรคติดเชื้อ COVID-19 เป็นโรคติดต่อที่อุบัติใหม่และมีกำรระบำด ในหลำยประเทศตั้งแต่ปลำยปี ๒๕๖๒ โดยประเทศไทยนั้น กระทรวงสำธำรณสุข ได้ประกำศให้เป็นโรคติดต่ออันตรำยตำมพระรำชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ (ล�ำดับที่ ๑๔) เมือ่ ๒๖ ก.พ. ๖๓ เพือ่ ประโยชน์ในกำรเฝ้ำระวัง ป้องกันและควบคุม โรคติดต่ออันตรำย ดังนั้น เมื่อ ๑๒ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖๓ นรม. จึงได้มีค�ำสั่ง จัดตัง้ “ศูนย์บริหำรสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙)” หรือเรียกโดยย่อว่ำ “ศูนย์บริหำรสถำนกำรณ์โควิด-๑๙” และ เมื่อ ๑๗ มี.ค. ๖๓ ครม. ได้มีมติออกมำตรกำรและแนวทำงกำรด�ำเนินกำร เพื่อรับมือกับสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของเชื้อดังกล่ำว และบังคับใช้ในภำพรวม อย่ำงเคร่งครัด ๗.๒ กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ยังคงมีกำรแพร่กระจำย ในประเทศไทยอย่ำงต่อเนื่อง รัฐบำลจึงได้มีกำรประกำศสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ทั่วรำชอำณำจักร และได้ออกข้อก�ำหนดโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ ๒๖ มี.ค. ๖๓ เพื่อยกระดับกำรควบคุมสถำนกำรณ์ และเมื่อ ๒๗ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖๓ นรม. ในฐำนะผู้อ�ำนวยกำรศูนย์บริหำรสถำนกำรณ์โควิด-๑๙ (ศบค.) ได้ จั ด โครงสร้ ำ งภำยในศู น ย์ ฯ ดั ง กล่ ำ ว โดยที่ ใ นส่ ว นของด้ ำ นควำมมั่ น คง ได้แต่งตั้งผู้บัญชำกำรทหำรสูงสุดเป็นหัวหน้ำศูนย์ปฏิบัติกำรแก้ไขสถำนกำรณ์ ฉุกเฉินด้ำนควำมมั่นคง (ศปม.) โดยมีส�ำนักงำนต�ำรวจแห่งชำติและทหำรทั้ง ๓ เหล่ำทัพ เป็นหน่วยสนับสนุนกำรด�ำเนินงำนดังกล่ำว

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

22

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

๘. บทบาทกองทัพบกในการสนับสนุนรัฐบาลเพื่อป้องกัน ควบคุม การแพร่ระบาด “COVID-19” ๘.๑ สถำนกำรณ์ ก ำรแพร่ ร ะบำดของโรคติ ด เชื้ อ COVID-19 เป็ น ภัยคุกคำมรูปแบบใหม่ที่มีควำมซับซ้อนและส่งผลกระทบไปทุกภูมิภำคของโลก ส�ำหรับประเทศไทย รัฐบำลได้มีมำตรกำรต่ำง ๆ ออกมำจ�ำนวนมำกเพื่อแก้ไข และรับมือกับปัญหำดังกล่ำว ในส่วนของกองทัพบกนัน้ ได้มกี ำรจัดตัง้ ศบค. ๑๙ ทบ. เพื่อสนับสนุนกำรด�ำเนินกำรของรัฐบำลและตอบสนองต่อภำรกิจดังข้ำงต้น โดยกองทั พ บกในฐำนะหน่ ว ยงำนด้ ำ นควำมมั่ น คง มี ห น้ ำ ที่ ใ นกำรเตรี ย ม ก�ำลังพล บุคลำกรทำงกำรแพทย์ และยุทโธปกรณ์ทกุ ประเภทให้มคี วำมพร้อมในกำร สนับสนุนกำรปฏิบัติงำนของรัฐบำล เพื่อช่วยเหลือประชำชน รวมถึงกำรควบคุม พิทักษ์ปกป้องก�ำลังพลและครอบครัว จึงได้มีกำรจัดตั้งศูนย์บริหำรสถำนกำรณ์ โควิด-๑๙ กองทัพบก (ศบค. ๑๙ ทบ.) ตำมค�ำสั่ง ทบ. (เฉพำะ) ที่ ๓๘๖/๖๓ ลง ๒๔ มี.ค. ๖๓ มีภำรกิจ ดังนี้ ๑) ก�ำหนดแนวทำงมำตรกำรและกำรปฏิบัติของกองทัพบกในกำร บริหำรสถำนกำรณ์ตำมนโยบำยของรัฐบำลและผู้บังคับบัญชำตำมล�ำดับชั้น ๒) ควบคุมและติดตำมกำรปฏิบัติของ นขต.ทบ. ในกำรแก้ไขปัญหำ กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อ COVID–19 ๓) สร้ำงกำรตระหนักรู้ให้กับก�ำลังพล ครอบครัว และประชำชน ๔) สนั บ สนุ น ภำครั ฐ และกำรช่ ว ยเหลื อ ประชำชนในกำรเตรี ย ม สถำนที่รองรับผู้ป่วย กำรก�ำจัดสิ่งปนเปื้อนเพื่อป้องกันกำรแพร่ระบำดของเชื้อโรค รวมถึงจัดเตรียมเครือ่ งอุปโภคบริโภคและระบบสำธำรณูปโภคตำมทีไ่ ด้รบั มอบหมำย

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

23

ภำพที่ ๗ : กองทัพบกได้สนับสนุนภำครัฐด้วยกำรปฏิบัติกำรล้ำงสิ่งปนเปื้อนในกำรขจัดกำรแพร่ระบำด ของเชื้ อ “COVID–19” ในเขตพื้ น ที่ ก รุ ง เทพฯ และปริ ม ณฑล รวมทั้ ง พื้ น ที่ ภ ำยในหน่ ว ย ของกองทัพบกทั่วประเทศ

๕) สนั บ สนุ น กำรปฏิ บั ติ ก ำรทำงทหำรในกำรรั ก ษำควำมมั่ น คง ภำยในพื้นที่ชำยแดนในสถำนกำรณ์วิกฤต ๖) กำรปฏิบัติกำรจิตวิทยำและประชำสัมพันธ์เพื่อสร้ำงกำรรับรู้ และควำมเข้ำใจที่ถูกต้องให้กับก�ำลังพลและครอบครัว ตลอดจนประชำชนทั่วไป รวมถึงกำรให้ข้อมูลข่ำวสำรต่อสื่อสำธำรณะ

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

24

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

ภำพที่ ๘ : กองทัพบกได้ด�ำเนินกำรสนับสนุนกำรปฏิบัติงำนของรัฐบำลเพื่อช่วยเหลือประชำชน รวมถึง กำรควบคุม พิทกั ษ์ ปกป้องก�ำลังพลและครอบครัว เช่น กำรจัดก�ำลังพลสนับสนุนกำรตัง้ จุดตรวจ/ ด่ำนตรวจ เพื่อด�ำเนินกำรตำมมำตรกำรควบคุมกำรแพร่ระบำด “COVID-19”

๘.๒ กำรแพร่ระบำดของเชื้อ Coronavirus Disease 19 (COVID–19) ดังกล่ำวนั้นได้ส่งผลกระทบต่อควำมมั่นคงของประเทศไปทุกระบบ นับว่ำเป็น ภัยคุกคำมร้ำยแรงที่ก่อให้เกิดควำมไม่สงบ สร้ำงควำมตื่นตระหนกและหวำดกลัว แก่ประชำชนทั้งประเทศ ซึ่งรัฐบำลได้ใช้มำตรกำรควบคุมต่ำง ๆ เพื่อควบคุม ป้องกันและปฏิบัติกำรก�ำจัด “COVID–19” ที่เป็นสำเหตุท�ำให้เกิดควำมไม่สงบ โดยเมือ่ พิจำรณำในมุมมองทหำรแล้ว กำรปฏิบตั กิ ำรก�ำจัดเชือ้ “COVID–19” นัน้ จะเปรียบเสมือนกับกำรท�ำสงครำมกับข้ำศึกที่มองไม่เห็นที่ได้แอบแฝงตัวมำ กับคนป่วย เมื่อพิจำรณำตำมมำตรกำรทำงทหำรในกำรป้องกันและปรำบปรำม กำรก่อควำมไม่สงบ (ปปส.) ดังกล่ำวแล้ว จะมีลักษณะวิธีกำรด�ำเนินงำนที่ คล้ำยกัน กล่ำวคือ หลักกำรดังกล่ำวจะประกอบด้วยมำตรกำรหลัก ๓ ประกำร คือ

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

25

กำรปรับปรุงสภำพแวดล้อมและกำรช่วยเหลือประชำชน, กำรพิทักษ์ประชำชน และทรัพยำกร และกำรปรำบกองก�ำลังติดอำวุธ โดยมี ๒ มำตรกำรเสริม คือ กำรปฏิบตั กิ ำรข่ำวกรอง และกำรปฏิบตั กิ ำรจิตวิทยำ ทีจ่ ะต้องด�ำเนินกำรควบคูก่ บั มำตรกำรหลักตลอดเวลำเพื่อเป็นกำรเพิ่มโอกำสควำมส�ำเร็จของมำตรกำรหลัก ดังกล่ำว กำรปฏิบัติกำรตำมมำตรกำรหลักในกำรปรับปรุงสภำพแวดล้อม และกำรช่ ว ยเหลื อ ประชำชนนั้ น จะเป็ น กำรปรั บ ปรุ ง สภำพแวดล้ อ มทำง ด้ำนกำรเมือง, ด้ำนเศรษฐกิจ และด้ำนสังคมจิตวิทยำ รวมถึงกำรช่วยเหลือประชำชน ที่ประสบปัญหำควำมเดือดร้อน เพื่อเป็นกำรลดและขจัดเงื่อนไขปัญหำที่จะเป็น สำเหตุให้ฝ่ำยตรงข้ำมน�ำไปแสวงประโยชน์ โดยแนวทำงกำรปฏิบัตินั้นจะเป็น โครงกำรที่ใช้เวลำสั้นให้เห็นผลทันตำ และมุ่งที่จะบรรเทำควำมเดือดร้อนที่ เกิดขึ้นเร่งด่วนเฉพำะหน้ำ เพือ่ ท�ำให้ประชำชนมีทศั นคติทดี่ ี เกิดควำมเชือ่ มัน่ และ ให้ควำมร่วมมือกับรัฐบำล โดยจะใช้มำตรกำรเสริมควบคูก่ บั มำตรกำรหลักทุกขัน้ ตอน เพื่อช่วยในกำรเผยแพร่ประชำสัมพันธ์ข้อมูลข่ำวสำร ผลงำนกำรช่วยเหลือ ประชำชน กำรชี้แจงควำมจ�ำเป็นและกำรสร้ำงกำรรับรู้ของประชำชน ๘.๓ ผลจำกกำรร่ ว มมื อ ของทุ ก ฝ่ ำ ยและมำตรกำรควบคุ ม จำกกำร ประกำศสถำนกำรณ์ฉุกเฉินในช่วงที่ผ่ำนมำ จึงท�ำให้กำรด�ำเนินตำมมำตรกำร เป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพ แต่รัฐบำลยังคงมีควำมจ�ำเป็นในกำรขยำยระยะ เวลำกำรประกำศสถำนกำรณ์ฉุกเฉินให้มีผลใช้บังคับต่อไป เนื่องจำกเกรงว่ำ กำรผ่อนคลำยมำตรกำรควบคุมอำจโดยขำดเครื่องมือที่มีประสิทธิภำพ จะท�ำให้ กำรแพร่ ร ะบำดของเชื้ อ COVID-19 กลั บ มำลุ ก ลำมขึ้ น ใหม่ อี ก ครั้ ง แต่ จ ะได้ มี ม ำตรกำรที่ ผ ่ อ นปรนขึ้ น โดยค� ำ นึ ง ถึ ง ปั จ จั ย ด้ ำ นสำธำรณสุ ข เป็นหลัก และน�ำปัจจัยด้ำนสังคมและด้ำนเศรษฐกิจมำประกอบกำรพิจำรณำ

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

26

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

ซึ่งผลจำกกำรด�ำเนินตำมมำตรกำรป้องกันและเลี่ยงโรคระบำด COVID-19 ที่ ได้ปฏิบัติเป็นกิจวัตรในห้วงที่ผ่ำนมำ จะมีผลท�ำให้สภำพสังคม วิถีชีวิตของ ประชำชนได้เกิดกำรปรับเปลี่ยนเป็นพฤติกรรมกำรด�ำเนินชีวิตและกำรท�ำงำน ในรูปแบบใหม่ (New Normal) ซึ่งจะส่งผลต่อควำมเปลี่ยนแปลงในทุกมิติของ โลก แม้ว่ำเหตุกำรณ์ดังกล่ำวนั้นจะสิ้นสุดลงไปแล้วก็ตำม

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

27

๙. การพัฒนาของกองทัพบกให้พร้อมรับกับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ (Non-Traditional Threat) ๙.๑ ทิ ศ ทำงกำรพั ฒ นำกองทั พ บกตำมวิ สั ย ทั ศ น์ ใ นปี พ.ศ. ๒๕๘๐ กองทั พ บกได้ ขั บ เคลื่ อ นองค์ ก รน� ำ ไปสู ่ เ ป้ ำ หมำยในอนำคต “กองทั พ บกที่ มี ศั ก ยภำพทั น สมั ย เป็ น ที่ เ ชื่ อ มั่ น ของประชำชนและเป็ น หนึ่ ง ในกองทั พ บก ชั้นน�ำของภูมิภำค” (Capable, Modern, Reliable and one of the Leading Armies in the Region) โดยก�ำหนดห้วงกำรขับเคลื่อนห้วงละ ๕ ปี ตำม แผนพัฒนำกองทัพบกที่ได้ก�ำหนดให้จัดเตรียมก�ำลังตำมพันธกิจของกองทัพบก เพื่อพัฒนำเสริมสร้ำงขีดควำมสำมำรถใน ๔ ด้ำนหลัก คือ ด้ำนโครงสร้ำงก�ำลัง (Force Structure), ด้ำนควำมพร้อมรบ (Combat Readiness), ด้ำนควำม ต่อเนื่องในกำรรบ (Sustainability) และด้ำนควำมทันสมัย (Modernization) โดยมุ่งเน้นกำรเสริมสร้ำงขีดควำมสำมำรถให้สอดคล้องกับสภำพควำมเป็นจริง กับกรอบงบประมำณที่จะได้รับกำรจัดสรร โดยหน่วยของกองทัพบกในอนำคต จะต้องเป็นหน่วยอเนกประสงค์ที่มีขนำดกะทัดรัด มีควำมคล่องแคล่วในกำร เคลื่อนที่ มีควำมสมบูรณ์ในตัวเองและสำมำรถปฏิบัติภำรกิจได้ทุกรูปแบบ ๙.๒ กองทั พ บกได้ มี แ นวคิ ด เตรี ย มก� ำ ลั ง ให้ พ ร้ อ มเผชิ ญ กั บ ภั ย คุ ก คำม ในรูปแบบใหม่ที่มีควำมสลับซับซ้อน (Hybrid Threats) ตำมกรอบของแผน พัฒนำกองทัพบก (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) โดยในปี ๒๕๖๓ นั้น เป็นปีแรก ที่กองทัพบกได้ก�ำหนดและเน้นให้หน่วยน�ำสู่กำรปฏิบัติด้วยกำรก�ำหนดเป็น นโยบำย “ปีแห่งกำรพัฒนำควำมรู้และควำมสำมำรถทำงทหำรของก�ำลังพล กองทั พ บกในทุ ก ระดั บ ” มี ค วำมมุ ่ ง หมำยหลั ก ประกำรหนึ่ ง เพื่ อ ส่ ง เสริ ม ให้ ก�ำลังพลมีควำมเข้ำใจสถำนกำรณ์ด้ำนควำมมั่นคงที่กองทัพบกก�ำลังเผชิญอยู่ และให้ ห น่ ว ยได้ พั ฒ นำขี ด ควำมสำมำรถให้ พ ร้ อ มรองรั บ ภั ย คุ ก คำมดั ง กล่ ำ ว การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

28

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

ทีม่ คี วำมซับซ้อนและมีควำมผสมผสำน (Hybrid Threats) มำกยิง่ ขึน้ โดยในปีแรก ของกำรเริ่ ม ต้ น กำรพั ฒ นำตำมแผนดั ง กล่ ำ วนั้ น จะเป็ น กำรเสริ ม สร้ ำ งให้ ควำมรูแ้ ก่กำ� ลังพล เนือ่ งจำกกองทัพบกได้พจิ ำรณำว่ำกำรทีจ่ ะยกระดับพลังอ�ำนำจ ทำงทหำรอย่ำงมีประสิทธิภำพนั้น ควรเริ่มต้นจำกกำรพัฒนำควำมรู้ซึ่งเป็น พื้ น ฐำนของกำรปฏิ บั ติ ภ ำรกิ จ ทั้ ง ปวง และกองทั พ บกยั ง ได้ ก� ำ หนดปั จ จั ย แห่งควำมส�ำเร็จของกำรด�ำเนินกำรตำมแผนดังกล่ำวว่ำขอให้หน่วยเน้นไปที่ กำรปฏิบัติ โดยหน่วยงำนที่รับผิดชอบทำงฝ่ำยอ�ำนวยกำรจะต้องจัดท�ำและ เสนอขออนุมัติวิธีกำรด�ำเนินกำรในรำยละเอียดต่อไปเพื่อให้มีผลในทำงปฏิบัติ ให้มีกำรก�ำกับดูแลและกำรตรวจสอบประเมินผล

ภำพที่ ๙ : ภำพหนังสือ FM 7-0 (Train to Win in a Complex World) และหนังสือคู่มือกำรฝึกเพื่อเอำชนะ ในโลกที่มีควำมซับซ้อนเพื่อเผชิญกับภัยคุกคำมแบบผสม (Hybrid Threat) ที่เป็นต้นฉบับ และฉบับแปล

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

29

๙.๓ หน่วยในกองทัพบกนั้น นอกจำกจะเสริมสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจ ในเรื่องภัยคุกคำมรูปแบบใหม่ที่มีควำมซับซ้อน (Hybrid Warfare) ให้กับ ก�ำลังพลทุกระดับตำมนโยบำยของกองทัพบกประจ�ำปี ๒๕๖๓ แล้ว ยังควร ที่จะหำแนวทำงน�ำมำขยำยผลด้วยกำรน�ำสู่กำรปฏิบัติด้วยกำรฝึกอีกด้วย จึงจะ เป็นกำรน�ำไปสู่กำรบรรลุเป้ำหมำยตำมแผนตำมปัจจัยแห่งควำมส�ำเร็จตำมที่ กองทัพบกก�ำหนดไว้ เนื่องจำกกำรฝึกที่มีประสิทธิภำพและทันสมัยจะน�ำไปสู่ กำรสร้ำงควำมพร้อมรบให้แก่กองทัพบกในกำรป้องกันประเทศจำกภัยคุกคำม ในทุกรูปแบบ โดยให้พิจำรณำตำมแนวทำงกำรฝึกเตรียมก�ำลัง FM 7-0 (Train to Win in a Complex World) หรือกำรฝึกเพื่อเอำชนะในโลกที่มีควำม ซับซ้อนเพื่อเผชิญกับภัยคุกคำมแบบผสม (Hybrid Threat) เนื่องจำกแนวทำง กำรฝึกดังกล่ำวเป็นกำรพัฒนำองค์ควำมรู้จำกพื้นฐำนควำมรู้เดิมที่กองทัพบกได้ใช้ อยู่แล้ว ซึ่งหน่วยควรน�ำไปใช้เป็นแนวทำงในกำรวำงแผนกำรฝึกและออกแบบ กำรฝึกตำมภำรกิจของหน่วยตนเอง ไม่ว่ำจะเป็นกำรฝึกเตรียมควำมพร้อม เพื่อออกปฏิบัติภำรกิจฝึก เพื่อทบทวนตำมวงรอบ หรือกำรฝึกเพื่อพัฒนำมำตรฐำน รำยกำรกิ จ เฉพำะตำมที่ผู้บังคับบัญชำหรือผู้น�ำหน่ วยต้ อ งกำร จะท� ำ ให้ มี ก ำร ยกระดับงำนด้ำนกำรฝึกให้เหมำะสม สอดคล้องกับภัยคุกคำมดังกล่ำว

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

30

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

๑๐. การพัฒนาของสงครามผสมผสาน (Hybrid Warfare) ๑๐.๑ สงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) เป็นกำรใช้เครื่องมือ และวิถีที่หลำกหลำย จะมีลักษณะของกำรผสมผสำนด้วยกำรน�ำเครื่องมือใหม่ ๆ ที่เป็นผลจำกกำรพัฒนำของเทคโนโลยีเข้ำมำเป็นปัจจัยเสริมกับอ�ำนำจก�ำลังรบ ในแบบเดิม โดยลักษณะเด่นของกำรท�ำสงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) ทีป่ รำกฏชัดคือ จะมีควำมต่อเนือ่ งของกำรสร้ำงควำมขัดแย้งให้เห็นอยูเ่ สมอ ทัง้ นี้ รูปแบบของกำรสงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) ในอนำคตจะยิ่งทวี ควำมซับซ้อน คลุมเครือ และมีกำรพัฒนำอย่ำงหลำกหลำย ไร้ขดี จ�ำกัดยิง่ ขึน้ เรือ่ ย ๆ ดังนั้น นักวิชำกำรนักกำรทหำรจึงได้พยำยำมปรับปรุงค�ำจ�ำกัดควำมของสงครำม ดังกล่ำวให้ครอบคลุมและตรงกับสถำนกำรณ์และภัยคุกคำมให้ทันสมัยอยู่เสมอ จึงท�ำให้ในรำยละเอียดของกำรจ�ำกัดนิยำมดังกล่ำวมีควำมหลำกหลำย และยังไม่ได้ มีกำรสรุปและจ�ำกัดนิยำมอย่ำงเป็นทำงกำรที่แน่นอน ๑๐.๒ ย้อนหลังไปก่อนหน้ำนั้น ได้มีกำรเกิดสงครำมในรูปแบบสงครำม ผสมผสำน (Hybrid Warfare) ของประเทศมหำอ� ำ นำจด้ ว ยกำรท� ำ สงครำมเศรษฐกิจระหว่ำงสหรัฐฯ และจีนที่ได้ด�ำเนินต่อเนื่องกันมำ จนถึง ปัจจุบันควำมขัดแย้งของประเทศมหำอ�ำนำจก็ยังคงมีอยู่อย่ำงต่อเนื่องและ ต่อมำได้เกิดสถำนกำรณ์กำรเกิดระบำด (Pandemic) ของเชื้อ COVID-19 โดยที่ ยังไม่สำมำรถสรุปสำเหตุของกำรเกิดโรคระบำด (Pandemic) ที่ชัดเจนได้ ถึงแม้องค์กำรอนำมัยโลก (World Health Organization : WHO) ได้มี กำรประกำศรับรองให้กำรแพร่ระบำดของเชื้อ COVID-19 เป็นกำรระบำด ใหญ่ (Pandemic) ทั่วโลกแล้วก็ตำม แต่มหำอ�ำนำจแต่ละฝ่ำยก็ยังคงมีควำม พยำยำมได้น�ำเรื่องดังกล่ำวมำใช้เป็นทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) ที่มีวัตถุประสงค์แอบแฝงเพื่อใช้ในกำรโจมตีหรือให้ประโยชน์แก่ฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่ง การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

31

สร้ำงควำมคลุมเครือ สับสนจนแยกไม่ออก เพรำะผลจำกกำรเกิดแพร่ระบำด ดังกล่ำวนั้นได้มีผลกระทบต่อเนื่องตำมกันไปทั้งโลก รวมทั้งประเทศที่คำดว่ำจะ เป็นคู่สงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) ดังกล่ำวนั้นต่ำงก็ได้รับผลกระทบ อย่ำงร้ำยแรงไปด้วยกันทุกฝ่ำย ๑๐.๓ กำรจ� ำ แนกรู ป แบบสงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) ในลักษณะกำรก่อกำรร้ำยด้วยอำวุธชีวภำพ (Bioterrorism) หรือลักษณะ ทีเ่ ป็นกำรเกิดโรคระบำด (Pandemic) ตำมวิถธี รรมชำติทไี่ ด้อบุ ตั ขิ นึ้ นัน้ ในขัน้ ตอน รำยละเอียดจะมีจดุ ทีแ่ ตกต่ำงกันทีพ่ อจะสังเกตได้ โดยหำกเป็นกำรลักลอบปฏิบตั กิ ำร ดังกล่ำวแล้ว จะมีฝ่ำยที่เสียหำยอย่ำงร้ำยแรงและมีฝ่ำยที่ได้รับผลประโยชน์ จำกกำรกระท� ำ ดังกล่ำวอย่ำงชัดเจน อีกทั้งถ้ำเป็นผลที่เกิดจำกอำวุธชีวภำพ (Biological Weapons) ที่มีผู้กระท�ำให้เกิดเหตุดังกล่ำวแล้วมักจะเกิดอำกำรที่ รุนแรงกว่ำปกติและจะเกิดขึ้นอย่ำงเร่งด่วนพร้อมกัน เนื่องจำกผู้ป่วยจะได้รับเชื้อ หรือพิษที่มีควำมเข้มข้นมำกกว่ำปกติเพื่อจะได้น�ำไปสู่กำรบรรลุวัตถุประสงค์หลัก ที่แท้จริงในขั้นต่อไป

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

32

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

๑๑. บทสรุป ๑๑.๑ แนวโน้มรูปแบบอนำคตของกำรท�ำสงครำม คำดว่ำกำรปฏิบัติ กำรสงครำมในรู ป แบบผสมผสำน (Hybrid Warfare) จะปรำกฏ มำกขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่สำเหตุหลักมำจำกกำรที่ประเทศมหำอ�ำนำจพยำยำมที่จะ ด� ำ เนิ น กำรเพื่ อ ให้ บ รรลุ วั ต ถุ ป ระสงค์ ท ำงทหำรโดยไม่ ต ้ อ งกำรแสดงควำม ขัดแย้งระหว่ำงประเทศอย่ำงเปิดเผย อีกทั้งจำกกำรหลีกเลี่ยงกำรท�ำลำยล้ำง ของสงครำมขนำดใหญ่และจำกสภำพแวดล้อมที่เป็นภัยคุกคำมทำงทหำรได้เกิด กำรเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบกำรใช้วิธีกำรตำมกระแสกำรพัฒนำของเทคโนโลยี และปัจจัยอื่น ๆ ที่มิใช่ทำงทหำรก็สำมำรถน�ำมำใช้ในกำรท�ำสงครำมได้อย่ำง หลำกหลำยรูปแบบตำมวัตถุประสงค์ทตี่ อ้ งกำรโดยไม่จำ� เป็นต้องประกำศสงครำม ๑๑.๒ สงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare) จะยังคงมีรูปแบบที่มีกำร พัฒนำต่อไป จะยังคงมีกำรใช้เครื่องมือและวิถีที่หลำกหลำยในกำรท�ำสงครำม มี ก ำรผสมผสำนเครื่ อ งมื อ ทุ ก รู ป แบบน� ำ มำใช้ ใ นกำรท� ำ สงครำมดั ง กล่ ำ ว อย่ำงไร้ขีดจ�ำกัด ดังนั้น หน่วยในกองทัพบกจะต้องเตรียมควำมพร้อมอยู่เสมอ ทั้งกำรเสริมสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในเรื่องภัยคุกคำมในรูปแบบใหม่ แล้วยังจะ ต้องน�ำแนวคิดดังกล่ำวไปขยำยผลด้วยกำรน�ำสู่กำรปฏิบัติด้วยกำรเพิ่มทักษะทำง ด้ำนกำรฝึกโดยเน้นตำมแนวทำงกำรฝึกเตรียมก�ำลัง FM 7-0 (Train to Win in a Complex World) หรือกำรฝึกเพื่อเอำชนะในโลกที่มีควำมซับซ้อนเพื่อเผชิญกับ ภัยคุกคำมแบบผสม (Hybrid Threat) ในทุกงำนกำรฝึก จะท�ำให้มีกำรพัฒนำ งำนด้ำนกำรฝึกเป็นไปอย่ำงต่อเนื่องและสอดคล้องกับภัยคุกคำมในสถำนกำรณ์ ปัจจุบันและในอนำคต และสอดคล้องกับแนวคิดทำงทหำรที่ว่ำ... “วิธีแก้ปัญหาทางทหารที่ดีที่สุดคือการฝึก”

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

จุลสารด้านความมั่นคง

(Security Pamphlet)

33

รายการอ้างอิง เอกสารวิจยั

ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม, พลตรี. “แนวทำงกำรแปลงยุทธศำสตร์กำรพัฒนำพื้นที่เพื่อควำมมั่นคงของ ชำติสกู่ ำรปฏิบตั ใิ นระดับพืน้ ทีใ่ นเขตกองทัพภำคที่ ๒” เอกสำรวิจยั ส่วนบุคคล, วิทยำลัย ป้องกันรำชอำณำจักร, ๒๕๖๐ - ๒๕๖๑ ชนำวุธ บุตรกินรี, พลตรี. “กำรพัฒนำระบบกำรฝึกและศึกษำทำงทหำรของกองทัพไทยรองรับ ยุทธศำสตร์ชำติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙)” เอกสำรวิจยั ส่วนบุคคล, วิทยำลัยป้องกัน รำชอำณำจักร, ๒๕๖๐ - ๒๕๖๑ สวัสดิ์ ชนะจิตรำสกุล, พลตรี. “กำรปรับปรุงโครงสร้ำงกองทัพบกให้สอดคล้องกับยุทธศำสตร์ ระยะ ๒๐ ปี” เอกสำรวิจัยส่วนบุคคล, วิทยำลัยป้องกันรำชอำณำจักร, ๒๕๖๐ - ๒๕๖๑ ฐิตนิ นั ท์ ธัญญสิร,ิ พลโท. “แนวทำงกำรปฏิรปู กำรบริหำรจัดกำรและโครงสร้ำงกระทรวงกลำโหม ให้เป็นกองทัพชั้นน�ำในประชำคมอำเซียน” เอกสำรวิจัยส่วนบุคคล, วิทยำลัยป้องกัน รำชอำณำจักร, ๒๕๕๗ คณะท�ำงำนจัดท�ำแนวคิดยุทธศำสตร์กองทัพบกของนักศึกษำ หลักสูตรหลักประจ�ำ วิทยำลัย กำรทัพบก ชุดที่ ๖๓ “เอกสำรเสนอแนวคิดยุทธศำสตร์กองทัพบกในมุมมองของหลักสูตร หลักประจ�ำ วิทยำลัยกำรทัพบก ชุดที่ ๖๓” ๒๕๖๒

หนังสือ

ศูนย์พัฒนำหลักนิยมและยุทธศำสตร์ กรมยุทธศึกษำทหำรบก, “คู่มือกำรฝึกเพื่อเอำชนะในโลก ที่มีควำมซับซ้อน” หนังสือเผยแพร่ควำมรู้, ๒๕๖๑ คู่มือรำชกำรสนำมว่ำด้วย กำรป้องกันและปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบ พ.ศ. ๒๕๔๐ (รส.๑๐๐ - ๒๐)

การบรรยายและการเสวนา

ฉลวย อ่อนค�ำ, พันเอก. บรรยำยเรื่อง “ยุทธกำร”. ณ โรงแรมภูเขำงำม รีสอร์ท. นครนำยก, ๒๗ พฤศจิกำยน ๒๕๖๒

การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

34

จุลสารด้านความมั่นคง (Security Pamphlet)

ภำสกร รักกำรดี, พันเอก. บรรยำยเรื่อง “สงครำมผสมผสำน (Hybrid Warfare)”. ณ โรงแรมภูเขำงำม รีสอร์ท. นครนำยก, ๑๑ พฤศจิกำยน ๒๕๖๒ เกียรติชัย โอภำโส, พันเอก., ภำณุ ขวัญสุวรรณ, พันเอก., อภิสิทธิ์ ไชยประสิทธิ์, ว่ำที่ร้อยโท. และพิ สิ ฐ เหตระกู ล , ดร., เสวนำทำงวิ ช ำกำรเรื่ อ ง “กำรพั ฒ นำกองทั พ บก ให้พร้อมรองรับ Hybrid Warfare”. ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพมหำนคร, ๓ มีนำคม ๒๕๖๓

ค�าสัง่ ทีเ่ กีย่ วข้อง

ค�ำสั่งส�ำนักนำยกรัฐมนตรี ที่ ๗๒/๒๕๖๓ เรื่อง จัดตั้งศูนย์ข้อมูลมำตรกำรแก้ไขปัญหำจำก โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19) ลง ๔ มีนำคม ๒๕๖๓ ค�ำสั่งส�ำนักนำยกรัฐมนตรี ที่ ๑๗/๒๕๖๓ เรื่อง กำรจัดโครงสร้ำงของศูนย์บริหำรสถำนกำรณ์ กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) เพิ่มเติม (ฉบับที่ ๓) ลง ๒๑ เมษำยน ๒๕๖๓ ค�ำสั่งส�ำนักนำยกรัฐมนตรี ที่ ๗๖/๒๕๖๓ เรื่อง จัดตั้งศูนย์บริหำรสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำด ของเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) ลง ๑๒ มีนำคม ๒๕๖๓

สารสนเทศออนไลน์

ธีรนันท์ นันทขว้ำง, พันเอก. ๒๕๕๒. กำรปฏิวัติในกิจกำรทหำร - RMA - กำรพัฒนำกองทัพ สู่ควำมทันสมัย. (Online). http://www.cioworldmagazine.com/hybridwarfare/ส�ำรวจเมื่อ ๒๐ มีนำคม ๒๕๖๓. สุภลักษณ์ กำญจนขุนดี. ๒๕๖๒. สงครำมลูกผสมคืออะไร? (Online). https://prachatai.com/ journal/2019/10/84886 ส�ำรวจเมื่อ ๒๐ มีนำคม ๒๕๖๓. ฤทธี อินทรำวุธ, พลตรี. ๒๕๖๐. สงครำมสื่อโซเชียล (Social Media Warfare). (Online). http://rittee1834.blogspot.com/2017/02/social-media-warfareonventional.html/ส�ำรวจเมื่อ ๒๐ มีนำคม ๒๕๖๓. ทองใบ ธีรำนันทำงกูร, พลเรือตรี. ๓ อำวุธท�ำลำยล้ำงสูง (Online). http://www.rtna.ac.th/ departments/Law/Thongbai%27s%20article3.html ส� ำ รวจเมื่ อ ๒๐ มีนำคม ๒๕๖๓. การพัฒนากองทัพบกให้พร้อมรองรับ "Hybrid Warfare"

วิสัยทัศน์ มุ่งสู่ควำมเป็นเลิศในกำรฝึกศึกษำวิจัยและพัฒนำ เพื่อผลิตก�ำลังพลให้เป็น ผู้น�ำที่มีประสิทธิภำพและคุณธรรมตำมนโยบำยของกองทัพบก

พันธกิจ ด�ำเนินกำรด้ำนกำรฝึกระดับบุคคลและหน่วยให้สอดคล้องกับสถำนกำรณ์ ในปัจจุบันและอนำคต ด�ำเนินกำรด้ำนกำรศึกษำให้กับก�ำลังพลของกองทัพบก ทั้งในและต่ำงประเทศ รวมทั้งพัฒนำระบบกำรศึกษำให้สอดคล้องกับควำม ต้องกำรของ ทบ. ด�ำเนินกำรสนับสนุนด้ำนกำรฝึกศึกษำ และกำรวิจัยพัฒนำ ให้ได้มำตรฐำนอย่ำงเพียงพอและเป็นระบบ ด�ำเนินกำรผลิต สรรหำ และพัฒนำ ก�ำลังพลให้มีประสิทธิภำพและคุณธรรมเพื่อสนองต่อภำรกิจ ส่งเสริมก�ำลังพล ให้มีควำมรอบรู้เท่ำทันสถำนกำรณ์ สำมำรถติดตำมเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป และเป็นที่ยอมรับของประชำชน

“ศักดิศ์ รีของทหาร” ๑. ทหำร คือ ผูท้ ไี่ ด้รบั เกียรติอย่ำงสูงจำกประชำชนทัง้ ชำติ ให้เป็นสุภำพบุรษุ ถืออำวุธเพื่อป้องกันประเทศ ๒. ทหำร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อควำมผำสุกของประชำชน และควำมอยู่รอดของชำติ ๓. ทหำร คือ ผู้ที่รักและบูชำเกียรติยศมำกกว่ำเงิน พระบรมรำโชวำทของพระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว รัชกำลที่ ๕

Data Loading...